มาดูกันว่า... มีคราบแบบไหนบ้างที่ Degreaser คือพระเอกตัวจริง!
ลักษณะ: เหลว ใส มันวาว เกาะแน่นกับโลหะหรือพื้น
พบบ่อยใน:
เครื่องจักรกลที่มีการหล่อลื่น
ชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น เพลาขับ บล็อกเครื่องยนต์
กระบวนการ stamping หรือ cutting ที่ใช้น้ำมันช่วยหล่อเย็น
ทำไมต้องใช้ degreaser?
คราบน้ำมันไม่ละลายน้ำ และเกาะแน่นบนผิวโลหะ การใช้ degreaser จะช่วยสลายชั้นไขมัน ทำให้คราบลื่นหลุดออกง่าย
ลักษณะ: ข้น หนืด เหนียว ติดแน่น ทนความร้อน
พบบ่อยใน:
ลูกปืนและชิ้นส่วนเคลื่อนที่
ชุดเกียร์
จุดที่มีแรงเสียดทานสูง
ทำไมต้องใช้ degreaser?
น้ำเปล่าหรือผงซักฟอกทั่วไปขจัดไม่ออก เพราะจาระบีมีโครงสร้างที่ทนทาน ต้องใช้ degreaser ที่แทรกซึมและแตกโครงสร้างโมเลกุลได้จริง
ลักษณะ: เหนียว แห้งเป็นคราบขาว/ใส บางทีกึ่งเหนียว
พบบ่อยใน:
กระบวนการบัดกรี PCB
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
สายไฟที่ผ่านการเชื่อมต่อ
ทำไมต้องใช้ degreaser?
คราบฟลักซ์ไม่เพียงแต่ดูไม่สะอาด แต่ยังนำไฟฟ้าเล็กน้อย ทำให้เกิดปัญหาลัดวงจรในอนาคต การเลือก degreaser สูตรไม่กัดวงจรจึงสำคัญมาก
ลักษณะ: ดำด้าน แห้ง ติดแน่น บางครั้งเป็นผงละเอียด
พบบ่อยใน:
เครื่องยนต์สันดาป
หัวฉีดดีเซล
ปล่องระบายความร้อน
ทำไมต้องใช้ degreaser?
เขม่าคาร์บอนมีความเหนียวเกาะแน่น และบางชนิดมีน้ำมันผสม ต้องใช้ degreaser ที่สามารถล้างฝังลึกได้โดยไม่กัดผิววัสดุ
ลักษณะ: เหนียว ใสหรือขาว ทิ้งคราบลื่นๆ บางครั้งเหมือนแห้งแต่ยังเหนียวอยู่
พบบ่อยใน:
กระบวนการประกอบเครื่องจักร
การติดฉลาก, เทป, ซีลยาง
น้ำยาหล่อเย็นเก่าหรือที่แห้งแล้ว
ทำไมต้องใช้ degreaser?
คราบเหล่านี้ละลายยาก และหากแช่ทิ้งไว้อาจแข็งตัว ต้องใช้ degreaser แบบแช่หรือสูตรเจลในการชะโลมเพื่อทำให้คราบอ่อนตัวก่อนเช็ด
เลือก degreaser ให้เหมาะกับประเภทคราบ = ประหยัดแรง ประหยัดเวลา และยืดอายุชิ้นงาน!